หนังสือพิมพ์ The Kathmandu Post ฉบับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 รายงานว่า ตามข้อมูล กรมศุลกากรเนปาล การนำเข้ายานพาหนะไฟฟ้า (electric vehicles: EV) เพิ่มขึ้นมากกว่า 20 เท่าในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ ค.ศ. 2021/2022 โดยในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2564 ถึงกลางเดือนมกราคม 2565 เนปาลมีการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า 1,103 คัน มูลค่า 3.24 พันล้านรูปีเนปาล ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 51 คัน มูลค่า 105.19 ล้านรูปีเนปาล ในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณที่ผ่านมา

ภายใต้รัฐบาลนาย KP Sharma Oli นาย Bishnu Prasad Paudel รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขณะนั้น ได้ประกาศแผนการของเนปาลที่จะเปลี่ยนยานพาหนะขนาดเล็กที่ใช้น้ำมันเบนซินเป็น EV ภายในปี ค.ศ. 2031

นาย Krishna Prasad Dulal อดีตประธานสมาคมผู้แทนจำหน่วยรถยนต์เนปาล เห็นว่า การนำเข้า EV ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วน่าจะเกิดจากนโยบายของรัฐบาลเนปาล ซึ่งในปีงบประมาณ ค.ศ. 2021-2022 ได้ลดภาษีนำเข้า EV จากร้อยละ40 เป็นร้อยละ 10 เพื่อเพิ่มการใช้ไฟฟ้าและส่งเสริมการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

บริษัทผู้แทนจำหน่ายรถยนต์มองว่า ยอดการนำเข้า EV ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการที่รัฐบาลเนปาลได้ยกเลิก ภาษีสรรพสามิตและลดภาษีศุลกากร เพื่อส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าในประเทศ กอปรกับราคาที่ลดลง ซึ่งขณะนี้ ราคา EV เริ่มต้นที่ 2 ล้านรูปีเนปาล นอกจากนี้ การใช้ไฟฟ้าปกติในการชาร์จก็เป็นอีกปัจจัยที่ดึงดูดให้ผู้บริโภคให้ซื้อ EV เพิ่มขึ้น

แถลงการณ์งบประมาณดังกล่าวได้ระบุด้วยว่า แบรนด์ EV ชั้นนำ 10 ราย ได้รับการเชิญชวนให้จัดตั้งโรงงานผลิตและประกอบในเนปาล โดยมีการเสนอเงินอุดหนุนทางภาษีและที่ดินให้เช่า ซึ่งหลังจากการยกเลิก ภาษีสรรพสามิตและลดภาษีศุลกากร ราคา EV และรถยนต์ที่ใช้เบนซินจะแตกต่างอยู่ที่ประมาณ 1-3 ล้านรูปีเนปาล โดยขึ้นอยู่กับกำลังของเครื่องยนต์

แม้เนปาลจะมีความต้องการ EV สูง แต่ความต้องการ EV ได้รับการตอบสนองน้อยกว่า 30% เนื่องจากการผลิตที่ลดลงและความต้องการที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการขาดแคลนส่วนประกอบและค่าขนส่งก็เพิ่มขึ้นเช่นกันโดยคำนึงว่า ปัจจุบัน เนปาลมีการนำเข้ายานพาหนะจากอินเดียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการผลิตในอินเดียลดลง

อินเดียได้ประกาศแผนงบประมาณประจำปี ค.ศ. 2022-2023 ซึ่งสะท้อนนโยบายการเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่ รวมถึงใน EV ซึ่งนาง Nirmala Sitharaman รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินเดีย กล่าวว่าจะมุ่งเน้นขยายโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ EV ทั่วประเทศ รวมถึงการมีสถานีชาร์จเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้เจ้าของรถเปลี่ยนมาใช้ EV โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ นโยบายดังกล่าวจะเอื้อให้เกิดศูนย์เปลี่ยนแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าของรถสามารถเติมเชื้อเพลิงให้กับยานพาหนะของตนด้วยการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่หมดแล้วด้วยแบตเตอรี่ใหม่ที่ชาร์จแล้ว ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่แบบฝังใน EV

นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว การนำเข้าจักรยานยนต์ไฟฟ้าก็เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ ค.ศ. 2021/2022 เนปาลนำเข้าจักรยานยนต์ไฟฟ้า 1,922 คัน มูลค่า 1.67 พันล้านรูปีเนปาล ในช่วงกลางกรกฎาคม 2564 - มกราคม 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 695 คัน มูลค่า 797 ล้านรูปีในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณที่ผ่านมา

นาย Sandeep Sharma ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท Laxmi Intercontinental ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดที่ได้รับอนุญาตในเนปาล ระบุว่า นอกจากการยกเลิกภาษีสรรพสามิตและการลดภาษีศุลกากรแล้ว ผู้ซื้อยังได้รับการสนับสนุนสินเชื่อในการซื้อยานพาหนะ EV สูงถึง 80% ของราคาที่ธนาคารและสถาบันการเงินกำหนด ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นยอดขาย EV ในเนปาล โดยความต้องการ EV ของฮุนไดเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่ฮุนไดมีสถานีชาร์จ 40 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ฮุนได รุ่น Kona ซึ่งมียอดขายสูงเช่นกัน นอกจากนี้ ฮุนไดได้เปิดตัวรุ่น Ioniq 5 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทั้งนี้ ปัจจุบันราคา EV ของฮุนไดเริ่มต้นที่ 5.6 ล้านรูปีเนปาล

แหล่งที่มา
https://kathmandupost.com/money/2022/02/02/nepal-s-electric-vehicle-imports-surge-after-tax-cuts